สำหรับผม คือ
Music Lover Audiophile system คือชุดสำหรับฟังเพลง คุณภาพสูง แต่ไม่เน้นการจับผิดรายละเอียด ฟังผ่อนคลาย แต่ต้องสามารถถ่ายทอดรายละเอียดของต้นทางได้อย่างครบถ้วน ซึ่งนิยามนี้ ถือเป็นข้อปลีกย่อย ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง ไม่ว่าจะเล่นกลับ (play back) จากอุปกรณ์ใดๆ เพราะเราเป็นนักเล่นเครื่องเสียง นอกจากเพลงเพราะๆแล้ว เราย่อมนิยมชื่นชมกับเครื่องเสียงไปในขณะเดียวกัน
Robyrd – Wysiwyg 2020
High performance Audiophile คือชุดเครื่องเสียงที่ยกระดับการฟังเพลงขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นเหมือนการที่เราใช้แว่นขยายส่องเข้าไปดูรายละเอียดของนักร้อง ของชิ้นดนตรี ของรูปวง มิติ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น นี่คือเสน่ห์ของการเล่นเครื่องเสียงก็ว่าได้ เพราะจะไม่มีการประณีประนอมยอมความต่อส่วนประกอบ หรือปัจจัยใด
Robyrd – Wysiwyg 2020
องค์ประกอบการฟังเพลงในชุดเครื่องเสียงที่เน้นศักยภาพ มี 3 องค์ประกอบหลักๆคือ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ความแตกต่างของการเล่นทั้งสองแบบ คือแนวเพลงของเจ้าของชุดนั้นๆ หากเน้นฟังเพลงร้อง หลงเสียงนาง เอาชุดเครื่องเสียงเน้นแสดงศักยภาพเสียงก็คงจะหวานยั่วใจ หยดย้อย ชวนหลงไหลแบบชุด Music Lover ไม่ได้
หากจะฟังเพลงที่มีเครื่องดนตรีมากชิ้น หรือมีรายละเอียดเยอะๆ ชุด Music Lover ก็ไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดตรงนั้นได้อย่างครบถ้วน
นี่กระมังคือ ทางแยกที่ต้องเลือกว่าเรา ยืนอยู่เส้นทางนักเล่นสายไหน ?
หรือบางท่านก็มีสองชุดเอาไว้ฟังตามอารมณ์พาไป ซึ่งบ่อยครั้งจะพบว่า ชอบฟังเสียงชุดเล็กมากกว่าชุดใหญ่ (จริงไหมครับ?)
แล้วชุดแบบ all-around เก่งทุกทางมีไหม จะบอกว่าไม่มีก็คงไม่ได้ แต่ถ้าตอบแบบจริงจัง ก็เรียกว่าต้องงมเข็มมากๆ เช่นกัน สำหรับผม ให้นิยามชุดเก่งรอบตัว คือชุดที่เราสามารถฟังได้ดี กับทุกแนวเพลง แต่อาจไม่ถึงขีดสุดในแต่ละแนวเพลง (ก็ต้องยอมประณีประนอมลงบ้าง) โดยที่ผมใช้เกณฑ์ของเวลาเป็นตัวตัดสิน หากเครื่องเสียงชุดไหน เราสามารถนั่งฟังได้เกิน 3-4 ชม. ติดต่อกัน โดยที่ไม่มีความรู้สึกอยากปิด หรือลุกหนี เครื่องเสียงชุดนั้นคือคำตอบ …
ดังนั้น ผมขอให้ทุกท่านหาคำตอบด้วยตัวเอง เพราะหูคนเราไม่เท่ากัน การรับความถี่ ความดังก็ไม่เท่ากัน หากจะมาถามผมว่าชุดนี้ นักร้องร้องเพลงเสียงดีกว่าอีกชุด ผมอาจจะเห็นเหมือน หรือเห็นต่างก็เป็นได้ …
ขอให้ฟังเพลงอย่างมีความสุขทุกท่าน
หมายเหตุ – บทความนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น